
โดยหลักการผู้ที่จะสามารถบริจาคเลือดได้ต้องมีสุขภาพทั่วไปแข็งแรง น้ำหนักตัวไม่ควรต่ำกว่า 45 กิโลกรัม ก่อนวันบริจาคโลหิตไม่ควรมีไข้ ไม่มีไข้หวัด ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ไม่มีโรคประจำตัว อาทิ ความดัน เบาหวาน ไตเสื่อม โรคติดเชื้อต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคทางด้านโลหิต มะเร็ง อาทิ เลือดออกง่าย เลือดแข็งตัวช้า เป็นต้น
ถ้าไม่มีภาวะตามที่กล่าวมาข้างต้นก็สามารถบริจาคได้ โดยมีหลักการเตรียมตัวง่าย ๆ อยู่ไม่กี่ข้อคือ
1. นอนหลับให้เพียงพอก่อนวันบริจาคประมาณ 6-8 ชั่วโมง
2. ในวันบริจาคให้รับประทานอาหารมื้อหลักตามปกติ อย่าไปอดอาหาร แต่เป็นเมนูที่ไขมันต่ำเพราะเวลาไขมันสูงแล้วจะทำให้สีเลือดผิดปกติ
3. ก่อนบริจาคโลหิต 1 วัน ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เด็ดขาด
4. ห้ามสูบบุหรี่อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
5. ก่อนบริจาคให้ ดื่มน้ำมาก ๆ ตรงนี้จุดรับบริจาคโลหิตจะจัดหาให้อยู่แล้วก่อนจะแทงเข็มเอาเลือดออกมา เพื่อลดอาการอ่อนเพลียหลังบริจาค
หลังบริจาคโลหิตควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำหวานเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง พักผ่อนอยู่ที่หน่วยรับบริจาคจนฟื้นพละกำลังก่อนอย่าฝืนออกไป สำหรับคนที่ต้องทำงานใช้พละกำลังมาก ต้องปีนป่าย ก่อสร้าง ขอให้หยุดงาน 1 วัน เพราะร่างกายของแต่ละคนสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ช้าเร็วแตกต่างกัน
ทั้งนี้ สำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารเสริม วิตามินต่าง ๆ ก็ไม่มีข้อห้ามไม่ให้บริจาคโลหิต แต่อาจจะทำให้ผู้ที่รับประทานของพวกนี้มีปัญหานิดหน่อย เช่น การรับประทานวิตามินอีจะทำให้เลือดหยุดยากนิดหน่อย อาจจะต้องกดสำลีซับเลือดนาน หรืออาจจะทำให้ผิวเนื้อช้ำง่าย
การ "ให้" ด้วยความบริสุทธิ์ใจเป็นสำคัญ โดยเฉพาะการ "บริจาคโลหิต" นับว่าเป็นการทำกุศลครั้งใหญ่ในชีวิต เพราะสามารถนำไปต่อลมหายใจของผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตในการรักษาโรค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น